วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา ของ จ้วง

ชาวจ้วงไม่มีศาสนาหรือองค์กรทางศาสนาที่จัดตั้งเป็นเอกภาพ สิ่งที่ชาวจ้วงนับถือจึงเป็นสภาวะ "กึ่งบุพกาล" ที่สำคัญคือ ความเชื่อเรื่องเทพเจ้าจำนวนหลายองค์, ลัทธิเต๋า, ไสยศาสตร์ และลัทธิซือกง (ลัทธิที่ดัดแปลงโดยชาวจ้วง)[8]

ชาวจ้วงนับถือเทพหลายองค์ และไม่ได้นับถือศาสนาหรือเทพเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพ ชาวจ้วงถือว่าทุกสิ่งทุกอย่างมี "วิญญาณ"[8] ชาวจ้วงนับถือธรรมชาติ บรรพบุรุษ และภาพสัญลักษณ์[8] เช่น หากจะจับปลาจับกุ้งก็จะต้องไหว้เทพเจ้าแม่น้ำก่อนทอดแห หรือหากจะตัดต้นไม้ต้องไหว้เทพเจ้าภูเขาหรือต้นไม้เสียก่อน เป็นต้น หากมนุษย์ทำการล่วงละเมิด เทพเจ้าก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ทันที[9] ทำให้มนุษย์เกรงกลัวเทพเจ้า หากไปล่วงละเมิดต่อเทพเจ้าองค์ใดมา ก็ต้องรีบยกข้าวปลาอาหารและเหล้า เงินกระดาษและธูปไปไหว้ทันที เพื่ออ้อนวอนให้ยกโทษและคุ้มครองตน[9]

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการนับถือบรรพบุรุษ ชาวจ้วงเชื่อว่าคนมีวิญญาณ คนตายไปแล้วแต่วิญญาณยังไม่ตาย[10] เมื่อมีคนตายแล้วถ้ามีพ่อหมอมาสวดให้วิญญาณพ้นทุกข์ วิญญาณก็จะผ่านสะพานไน่ฮ้อไปยังเมืองผีที่อยู่ดีกินดีและเป็นผีบรรพบุรุษที่คุ้มครองลูกหลาน ตรงกันข้ามถ้าหากไม่มีพ่อหมอมาสวดหรือตายนอกบ้าน วิญญาณจะผ่านสะพานไน่ฮ้อหรือไปปรโลกไม่ได้ ก็จะกลายเป็นผีเร่ร่อนทำร้ายลูกหลานของตนแทน[10] ดังนั้นบ้านของชาวจ้วงทุกครอบครัวจึงมีแท่นบูชาบรรพบุรุษในห้องโถง กลางแท่นจะมีกระดาษสีแดงเขียนชื่อบรรพบุรุษทุกยุคทุกสมัยและตั้งป้ายเอาไว้ ข้างล่างวางกระถางธูปคอยเซ่นไหว้เสมอ ยามซื้อของดี ๆ, ฆ่าสัตว์, กลั่นเหล้าหรือทำข้าวต้มมัด ก็จะต้องจุดธูปบูชาเสียก่อนจึงจะกินได้[10]

ส่วนลัทธิซือกง เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นจากจารีตของชาวจ้วงเอง และมีระเบียบของบังคับที่ค่อนข้างมั่นคง แต่ไม่มีองค์กรหรือศาลเจ้าที่เป็นเอกภาพ[11] หน่วยจัดตั้งของลัทธิดังกล่าวเป็นกลุ่มกระจายเป็นหน่วยย่อย ๆ เรียกว่า ซือถาน แต่ละถานจะมีอาจารย์ผู้ปกครองถานเป็นผู้ควบคุมการไหว้ และการประกอบพิธีต่าง ๆ[11] ผู้ที่เข้ารับนับถือซือกงต้องผ่านการไหว้ครูและรับศีล ท่องคัมภีร์ซือกง หัดรำและศิลปะกายกรรมครึ่งปีขึ้นไป เมื่อสำเร็จก็จะเป็นซือกงอย่างเป็นทางการ[12] มีสถานที่ชุมนุมเรียกว่า หอซือ มีบ้านเฉพาะและมีนาให้เช่า ซึ่งเงินค่าเช่านาที่ได้จะนำมาใช้จ่ายของหอซือ ในลัทธิจะมีเทพเจ้าใหญ่ ๆ 36 องค์ เทพเจ้าน้อย 72 องค์ แต่ทางปฏิบัติจะมีมากกว่า 200 องค์[12] เทพสำคัญคือ พระไตรสรณคมน์, พระตรีภพนาถ, พระภูมิเจ้าที่ นอกจากนี้ยังยืมเทพจากลัทธิเต๋าคือ เทพซานชิง และเล่าจื๊อ ส่วนศาสนาพุทธคือ พระศากยมุนี, พระโพธิสัตว์กวนอิม, พระอรหันต์ และเทพพื้นเมืองทั่วไป เป็นต้น คัมภีร์ทางลัทธิมีกว่า 120 เล่ม บ้างเป็นนิทานวีรบุรุษ บ้างเป็นกลอนธรรมจริยา บ้างเป็นเพลงรัก ส่วนมากเป็นเพลงพื้นเมืองที่เขียนด้วยอักษรจ้วงเก่า[12]

ปัจจุบันแม้ว่าจะมีศาสนาอื่นเผยแผ่เข้ามาในเขตชาวจ้วงบ้าง แต่ก็มิได้มีผลมากมายนัก ชาวจ้วงได้นำหลักการบางอย่างของทุกศาสนามาผสมผสานกับลัทธิเต๋า ไสยศาสตร์ และลัทธิซือกง ดังนั้นในเขตชาวจ้วงจึงไม่ค่อยปรากฏศาสนสถานเท่าใด[13]